http://ilovelibrary.com/book_cover

"ทุกวันนี้โรคหรือความเจ็บป่วยที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมมีให้เห็นอยู่มากมาย เช่น โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ฯลฯ ทั้งที่อาหารทุกชนิดนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายคนเรา และบางครั้งอาหารยังสามารถทำหน้าที่ในการบำบัดหรือรักษาโรคได้อีกด้วย ในเล่มจะพูดถึงผัก 50 ชนิด เช่น มะรุม กระเจี๊ยบ หน่อไม้ฝรั่ง ดอกขจร ฯลฯ โดยให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าผักแต่ละชนิดมีแร่ธาตุหรือสารอาหารอะไรบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย (เหตุผลที่ควรกิน), กินอย่างไรจึงได้ประโยชน์สูงสุด, ทำอะไรกินดี (สูตรอาหาร) ตลอดจนผลเสียที่อาจเกิดได้ในคนที่มีโรคประจำตัว และเกร็ดความรู้อื่นๆ

ถั่วและธัญพืช นับเป็นอาหารที่สำคัญในโลกสุขภาพ เพราะเป็นทั้งแหล่งพลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญหลายชนิด ในแนวทางอาหารสุขภาพทุกแนวทาง ล้วนเน้นย้ำให้คนเรารับประทานธัญพืชเป็นอาหารเพื่อบำรุงร่างกายและทำให้สุขภาพดี แต่ในบ้านเรา การใช้ธัญพืชประกอบอาหารยังค่อนข้างอยู่ในวงจำกัด มีอาหารที่ปรุงจากถั่วและธัญพืชไม่มากนัก ดังนั้น การให้ความรู้เกี่ยวกับถั่วและธัญพืชจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยความรู้นี้จะเป็นทั้งความรู้ในด้านการเลือกใช้ วิธีการนำไปปรุงเพื่อรับประทานและประโยชน์ที่จะได้จากการบริโภคด้วย

“อาหารเสี่ยงเลี่ยงได้” (ทุกอาหารเป็นยา ถ้ากินเป็น เล่ม 4) หนังสือที่จะชี้ให้คุณผู้อ่านเห็นถึง “ความเสี่ยง” ของอาหารที่เราแสนจะเคยคุ้น ไม่ว่าจะเป็น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ไปจนถึงของกินเล่นอย่างลูกชิ้น เฟรนช์ฟรายหรือขนมกรุบกรอบ พร้อมทั้ง “เมนูท้ายเล่ม” ที่ทำกินเองได้ง่ายๆ ปลอดภัย นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ยังชวนให้คุณคิดเพิ่มด้วยว่า “ที่จริงแล้ว” การลุกขึ้นมาทำอาหารมื้อเล็กๆ ด้วยตัวเองแทนการซื้อกินนั้นไม่ยากเลย หากเราสามารถจัดการเวลาและตัดสินใจลุกขึ้นมาทำอาหารกินเอง นอกจากข้อมูลทางโภชนาการที่ครบถ้วนแล้ว ในเล่มยังตอบข้อสงสัยที่หลายคนอยากรู้เช่น

"ถ้าคำว่า “โภชนาการ” ทำให้คุณส่ายหัวด้วยความไม่เข้าใจ “ป้า” นักโภชนาการคนนี้จะเปลี่ยนความคิดนั้นใหม่!! จากความน่าเบื่อหน่ายจนต้องปิดหูร้อง “อี๋” ให้กลายเป็นคำว่า “อ๋อ” (เข้าใจแล้ว) และคำว่า “อื้ม!” (อย่างนี้นี่เอง) “เมื่อวานป้าทานอะไร?” หนังสือบอกเล่าหลักการกินอยู่ฉบับอ่านง่าย (จากเพจเฟซบุ๊กที่มีคนกดไลก์และติดตามอย่างล้นหลามเกือบแสนคน) หนังสือเล่มนี้พร้อมชี้ทางออกด้วยโภชนาการแบบ “หมูหมู” ที่แสนจะเคี้ยวคล่องและย่อยง่าย เปรียบดั่งมี “ป้า” มาเป็นเทรนเนอร์ประจำตัวที่ทำให้คุณกลายเป็นหนุ่มสาวสุขภาพดี "

แนะนำ "ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ" 20 แห่ง พร้อมสูตรอาหารและวิธีทำ รวม.............เมนู บวกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผ่านอาหารการกินที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ รวมถึงข้อมูลจำเพาะ เช่น สถานที่ตั้ง เบอร์โทร.ติดต่อ แผนที่ นอกจากนี้ ท้ายเล่มยังได้รวบรวมรายชื่อร้านอาหารสุขภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจ แหล่งจำหน่าย และผู้ผลิตเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเลือกซื้อวัตถุดิบมาทำกินเอง ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ที่กล่าวถึงในหนังสือเล่มนี้ ไม่ได้หมายความว่าทุกร้านเป็นออร์แกนิก เป็นอาหารเจหรือมังสวิรัติเท่านั้น รวมทั้งไม่ได้ปลอดเนื้อสัตว์ไปเสียทุกจาน แต่เราเน้นทางสายกลางและความหลากหลายทางชีวภาพ ค

"Good Shape Save Cost โคตรประหยัด ขจัดอ้วน คือหนังสือสุขภาพที่ถ่ายทอดประสบการณ์การลดน้ำหนักของ “จอห์น วิญญู วงศ์สุรวัฒน์” ที่เคยน้ำหนักสูงสุดเกือบร้อยกิโลกรัม จนได้รับคำครหามากมายกระหน่ำใส่!! สารพัดเสียงที่ถาโถมนั้นได้กลายเป็นแรงผลักสำคัญ ให้จอห์นลุกขึ้นมาปฎิวัติตัวเอง...

" โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ, นิ้วล็อก, ริดสีดวงทวาร, กรดไหลย้อนกลับ, ไมเกรน, ปวดไหล่ปวดข้อ, หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน, ทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ - - นี่คือ 8 โรคร้ายที่อาจจะกำลังมาเยือนคุณในไม่ช้า... แต่คุณสามารถเรียนรู้และป้องกันได้ด้วยตัวเอง! หนังสือเล่มนี้ เหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพทั่วไป ทั้งผู้ที่ยังไม่ป่วย และคนที่กำลังป่วย เพื่อให้คุณเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรค เรียนรู้วิธีป้องกันและดูแลตัวเองก่อนจะสายเกิน หรือแม้เมื่อคุณต้องเผชิญอยู่กับโรคร้ายที่กำลังคุกคาม คุณก็จะสามารถรับมือได้เป็นอย่างดี เพราะสุขภาพดีไม่มีวางขาย - - มีแต่ต้องสร้างด้วยตัวคุณเอง! """

รวมบทความจากคอลัมน์ "ฝรั่งมองไทย" ในมติชนสุดสัปดาห์ วิพากษ์วิจารณ์สังคมและการเมืองไทยและเหตุการณ์ทั่วโลกช่วงปี 2547-2548 ด้วยอารมณ์ขัน เสียดลึกของคอลัมนิสต์ฝรั่งหัวใจไทยนาม ไมเคิล ไรท เปิดมุมมอง ขยายความคิดด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกล

ผมเห็นว่าเพื่อนคนไทยจำนวนมาก ย่างเข้ามาในแดนสนธยาแห่งยุคสงสัย (Age of Doubt) จึงเขียนบทความแนวเสรีนิยมลงมติชนสุดสัปดาห์เป็นระยะ ๆ ผู้อ่านบางท่านมีแก่ใจเขียนจดหมายแสดงความเห็นด้วย และขอให้รวบรวมเป็นกลุ่ม จึงจัดทำหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาบันทึกบทความจากปี 2545-2546 สนองความปรารถนาดีอนึ่ง ยังมีผู้อ่านบางท่านอ่านผมแล้วอารมณ์เสีย... ผมขอแนะนำท่านว่า "ไมเคิล ไรท" ไม่ได้เป็นวิชาบังคับหรอกครับ หากท่านไม่ชอบแล้วจะอ่านบทความของผมทำไม ชวนให้อ่านนักเขียนที่น่ารักกว่าผม ท่านจะได้มีจิตสุขสำราญไม่เสียอารมณ์เปล่า ๆ

" วิพากษ์วิจารณ์สังคม-การเมืองไทยและเหตุการณ์ทั่วไปช่วงปี 2548-2550 ด้วยอารมณ์ขัน เสียดลึก เหน็บแนมแสบคันของคอลัมนิสต์ฝรั่งหัวใจไทยนาม ไมเคิล ไรท เปิดมุมมอง ขยายความคิดด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกล เล่มนี้อัดแน่นด้วยสถานการณ์การเมืองของไทยตั้งแต่เริ่มคุกรุ่นจนกระทั่งร้อนแรง แตกหัก แต่คุณไมคก็ยังมีหวังว่า จะดีขึ้น"